ตลาดต่างประเทศ

หุ้นไทย

อนุพันธ์

หุ้นกู้

โครงการ EJIP

แพลตฟอร์มการเทรด

ลงทุนในหุ้น

กองทุนรวม

กองทุนส่วนบุคคล

กองทุนลดหย่อนภาษี

แบบประกันคุ้มครองความเสี่ยง

ลงทุนในกองทุน

บทความด้านการลงทุน

อัปเดตจากบริษัทฯ

ข่าวสารนักลงทุน

บทความและข่าวสาร

หุ้น

หุ้นต่างประเทศ

กองทุน

บทวิเคราะห์

ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ

คอร์สเรียนน่าสนใจ

วางแผนลดหย่อนภาษีสำหรับคนรักสัตว์

วางแผนการลงทุน

Footer Menu

องค์กร

บริการวาณิชธนกิจ

Fair Dealing Policy

คำถามที่พบบ่อย

รับสมัครตัวแทนอิสระ (IFA)

รับสมัครตัวแทนอิสระ (IAA)

เกี่ยวกับบริษัทฯ

Header Menu

Update Details

S&P 500 และ Nasdaq 100 ต่างกันอย่างไร ? อธิบายครบทุกแง่มุม

Home

Update

{type}

{title}

s-p-500-index-green-upward.jpg

<h3 style="text-align:center;">สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ กับ Phillip Global Markets</h3>&nbsp;<div class="raw-html-embed"><div class="text-center">
<div class="inline-block">
<a href="/{locale}/global/stocks" class="btn btn-long-lg-fill">
<h6>ดูรายละเอียดเพิ่มเติม</h6>
</a>
</div>
</div></div>

Phillip Global Market

<h2>S&amp;P 500 หรือ Nasdaq 100 ดัชนีคือตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ ?</h2>&nbsp;เมื่อพูดถึงตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะได้ยินชื่อดัชนี S&amp;P 500 และ Nasdaq 100 อยู่บ่อยครั้ง ดัชนีทั้งสองนี้ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญของตลาดหุ้น แต่มีความแตกต่างกันในเชิงโครงสร้างและกลยุทธ์การลงทุน ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจว่า S&amp;P 500 และ Nasdaq 100 ต่างกันอย่างไร ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น&nbsp;<img src="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/s_p_500_index_green_upward_27fb41cd32.jpg" alt="S&amp;P 500 คือดัชนีที่ประกอบไปด้วย 500 บริษัทมูลค่าสูงสุดในอเมริกา" srcset="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/thumbnail_s_p_500_index_green_upward_27fb41cd32.jpg 235w,https://poems-static-prod.azureedge.net/media/small_s_p_500_index_green_upward_27fb41cd32.jpg 500w,https://poems-static-prod.azureedge.net/media/medium_s_p_500_index_green_upward_27fb41cd32.jpg 750w,https://poems-static-prod.azureedge.net/media/large_s_p_500_index_green_upward_27fb41cd32.jpg 1000w," sizes="100vw">&nbsp;<h2>S&amp;P 500 คืออะไร ?</h2>&nbsp;S&amp;P 500 (Standard &amp; Poor’s 500) คือดัชนีตลาดหุ้นที่รวบรวม 500 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของภาวะเศรษฐกิจโดยรวม S&amp;P 500 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1957 โดยบริษัท Standard &amp; Poor’s ดัชนีนี้ถูกออกแบบมาให้สะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น&nbsp;&nbsp;<ul><li>เทคโนโลยี (Apple, Microsoft, Nvidia) &nbsp;</li><li>การเงิน (JPMorgan Chase, Goldman Sachs, Bank of America) &nbsp;</li><li>พลังงาน (ExxonMobil, Chevron) &nbsp;</li><li>สุขภาพ (Pfizer, Johnson &amp; Johnson) &nbsp;</li><li>อสังหาริมทรัพย์ (Prologis, American Tower) &nbsp;</li><li>สินค้าอุปโภคบริโภค (Coca-Cola, Procter &amp; Gamble)</li></ul>&nbsp;ด้วยความที่ดัชนีนี้ประกอบไปด้วยบริษัทจากภาคเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทำให้เป็นหนึ่งในดัชนีที่มีความเสถียรที่สุด และถูกใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark) ในการประเมินผลการลงทุนของกองทุนและพอร์ตโฟลิโอทั่วโลก&nbsp;<h2>Nasdaq 100 คืออะไร ?</h2>&nbsp;Nasdaq 100 คือดัชนีที่รวบรวม 100 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงด้านบริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ดัชนีนี้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 1985 เพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของบริษัทที่มีการเติบโตสูง โดยจะเน้นลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหลัก ตัวอย่างบริษัทที่อยู่ใน Nasdaq 100 ได้แก่&nbsp;&nbsp;<ul><li>เทคโนโลยี : Apple, Microsoft, Amazon, Nvidia, Meta &nbsp;</li><li>เทคโนโลยีชีวภาพ : Moderna, Amgen, Regeneron &nbsp;</li><li>โทรคมนาคม : Comcast, Verizon &nbsp;</li><li>ค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ : Amazon, Costco &nbsp;</li><li>อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง: Tesla, Netflix &nbsp;</li></ul>&nbsp;<h2>เปรียบเทียบ S&amp;P 500 กับ Nasdaq 100</h2>&nbsp;<h3>โครงสร้างของดัชนี</h3>โครงสร้างของ S&amp;P 500 และ Nasdaq 100 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดย S&amp;P 500 คือดัชนีที่ถูกออกแบบมาให้เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นสหรัฐโดยรวม ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรม ขณะที่ Nasdaq 100 มีลักษณะเฉพาะตัวมากกว่าเพราะมุ่งเน้นไปที่บริษัทเทคโนโลยีเป็นหลัก&nbsp;<ul><li>S&amp;P 500 ประกอบด้วย 500 บริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงบริษัทจากทุกภาคส่วน เช่น เทคโนโลยี การเงิน พลังงาน สุขภาพ อสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค &nbsp;</li><li>Nasdaq 100 ประกอบด้วย 100 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาด Nasdaq ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี เช่น Apple, Microsoft, Nvidia, Tesla และ Meta โดยไม่มีบริษัทในภาคการเงิน เช่น ธนาคารหรือบริษัทประกันภัย</li></ul>&nbsp;ความแตกต่างนี้ทำให้ S&amp;P 500 คือดัชนีที่มีโครงสร้างสมดุลกว่าและเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาพรวม ส่วน Nasdaq 100 นั้นมีความเข้มข้นในภาคเทคโนโลยี ซึ่งสามารถทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้นในช่วงที่เทคโนโลยีเติบโต แต่ก็มีความเสี่ยงจากการพึ่งพาภาคส่วนเดียวมากเกินไป&nbsp;<h3>อุตสาหกรรมหลักของแต่ละดัชนี</h3>การกระจายตัวของอุตสาหกรรมในแต่ละดัชนีมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน&nbsp;<ul><li>S&amp;P 500 มีการกระจายตัวของอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างสมดุล โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมีสัดส่วนประมาณ 30-35% และอุตสาหกรรมอื่น ๆ มีการกระจายตัวทั่วถึง เช่น การเงิน สุขภาพ และพลังงาน &nbsp;</li><li>Nasdaq 100 มีสัดส่วนของบริษัทเทคโนโลยีมากกว่า 50% และยังมีบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพ อีคอมเมิร์ซ และโทรคมนาคม ทำให้เป็นดัชนีที่มีความเป็น “Tech-Centric” สูง</li></ul>&nbsp;ดังนั้น นักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังหลายภาคอุตสาหกรรมอาจชื่นชอบ S&amp;P 500 มากกว่า ในขณะที่นักลงทุนที่เชื่อมั่นในเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาจมองว่า Nasdaq 100 มีศักยภาพมากกว่า&nbsp;<h3>ประสิทธิภาพและความผันผวน</h3>ความแตกต่างในโครงสร้างอุตสาหกรรมส่งผลโดยตรงต่อความผันผวนของแต่ละดัชนี&nbsp;<ul><li>S&amp;P 500 มีความผันผวนต่ำกว่า เนื่องจากมีการกระจายตัวของอุตสาหกรรมอย่างหลากหลาย หากอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมีปัญหา อุตสาหกรรมอื่นสามารถช่วยชดเชยผลกระทบได้ &nbsp;</li><li>Nasdaq 100 คือดัชนีที่มีความผันผวนสูงกว่า เพราะพึ่งพาภาคเทคโนโลยีอย่างสูง ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก เช่น อัตราดอกเบี้ย นโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก</li></ul>&nbsp;ตัวอย่างเช่น ในปี 2022 Nasdaq 100 ร่วงลงกว่า 30% เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องพึ่งพาเงินลงทุนสูง ขณะที่ S&amp;P 500 ลดลงประมาณ 18% เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แตกต่างกัน&nbsp;<h3>ผลตอบแทนในอดีต</h3>ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2015-2024) Nasdaq 100 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ประมาณ 17-20% ในขณะที่ S&amp;P 500 ให้ผลตอบแทนประมาณ 10-13% โดยเหตุผลที่ Nasdaq 100 ให้ผลตอบแทนได้สูงกว่า คือการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรมสูง เช่น Apple, Microsoft, Amazon และ Teslaอย่างไรก็ตาม ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงวิกฤตดอตคอมในปี 2000-2002 Nasdaq 100 ปรับตัวลดลงกว่า 80% ในขณะที่ S&amp;P 500 ปรับตัวลงน้อยกว่าที่ประมาณ 50%&nbsp;<img src="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/nasdaq_inscription_next_us_dollars_american_b0307889b7.jpg" alt="Nasdaq 100 คือดัชนี 100 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดใน Nasdaq" srcset="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/thumbnail_nasdaq_inscription_next_us_dollars_american_b0307889b7.jpg 235w,https://poems-static-prod.azureedge.net/media/small_nasdaq_inscription_next_us_dollars_american_b0307889b7.jpg 500w,https://poems-static-prod.azureedge.net/media/medium_nasdaq_inscription_next_us_dollars_american_b0307889b7.jpg 750w,https://poems-static-prod.azureedge.net/media/large_nasdaq_inscription_next_us_dollars_american_b0307889b7.jpg 1000w," sizes="100vw"> &nbsp;<h2>ควรลงทุนใน S&amp;P 500 หรือ Nasdaq 100 ดี ?</h2>&nbsp;<h3>S&amp;P 500 เหมาะกับใคร ?</h3>&nbsp;<ul><li>นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวและต้องการความมั่นคง &nbsp;</li><li>ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม &nbsp;</li><li>นักลงทุนที่ต้องการให้พอร์ตของตนมีการเติบโตในอัตราที่มั่นคง และไม่ต้องการเผชิญกับความผันผวนสูง &nbsp;</li><li>ผู้ที่มองหาดัชนีที่สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ</li></ul>&nbsp;ล่าวคือ S&amp;P 500 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนแบบ Passive Investment ผ่านกองทุนดัชนี (Index Fund) หรือ ETF เช่น SPY หรือ VOO ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่ำและให้ผลตอบแทนที่สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภาพรวม&nbsp;<h3>Nasdaq 100 เหมาะกับใคร ?</h3>&nbsp;<ul><li>นักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงสูงได้ และต้องการผลตอบแทนที่สูงกว่า &nbsp;</li><li>ผู้ที่เชื่อมั่นในภาคเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว &nbsp;</li><li>นักลงทุนที่สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดี และมองหาการลงทุนที่อาจให้ผลตอบแทนสูงในอนาคต &nbsp;</li><li>ผู้ที่ต้องการโอกาสในการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เช่น Apple, Microsoft, Nvidia และ Tesla</li></ul>&nbsp;ด้วยเหตุนี้ Nasdaq 100 คือดัชนีที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองเชิงรุกและต้องการลงทุนใน ETF เช่น QQQ หรือ TQQQ (ซึ่งเป็น leveraged ETF) เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไร&nbsp;ข้อมูลที่บทความนี้นำเสนอ น่าจะทำให้เข้าใจกระจ่างแล้วว่า S&amp;P 500 และ Nasdaq 100 ต่างกันอย่างไร และสำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถซื้อขายดัชนี S&amp;P 500, Nasdaq 100 รวมถึงดัชนีอื่น ๆ และซื้อหุ้นต่างประเทศกับบริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่มบริษัท PhillipCapital จากสิงคโปร์ ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี มีเครือข่ายใน 5 ทวีป 15 ประเทศทั่วโลก พร้อมช่วยให้คำแนะนำในการดำเนินการทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ดำเนินธุรกิจในไทยนานกว่า 27 ปี เราให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ใน 13 ตลาดทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สิงคโปร์ และอีกหลากหลายประเทศ สามารถเลือกถือเงินได้หลายสกุล&nbsp;&nbsp;เปิดบัญชีผ่านออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ <a href="https://aoo.poems.in.th/account/login/" target="_blank">https://aoo.poems.in.th/account/login/</a> หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์ <a href="tel:02-635-3055" target="_blank">02-635-3055</a> มีเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตคนไทยให้บริการ 24 ชั่วโมง (จันทร์-ศุกร์) และที่ LINE Official <a href="https://lin.ee/q0bIxVg" target="_blank">@PhillipGlobal</a>*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน&nbsp;ข้อมูลอ้างอิง:&nbsp;the Nasdaq 100 Index or the S&amp;P 500 Index?. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 จาก <a href="https://www.investopedia.com/nasdaq-100-index-or-s-and-p-500-index-8779644" target="_blank">https://www.investopedia.com/nasdaq-100-index-or-s-and-p-500-index-8779644</a>

เปรียบเทียบว่า S&P 500 และ Nasdaq 100 ต่างกันอย่างไร ทั้งในมิติโครงสร้าง อุตสาหกรรมหลัก ความผันผวน ผลตอบแทน พร้อมคำแนะนำสำหรับนักลงทุนแต่ละประเภท

sp500-vs-nasdaq100-comparison

Advice

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

S&P 500 คือดัชนีที่ประกอบไปด้วย 500 บริษัทมูลค่าสูงสุดในอเมริกา

protrade2025-960x1200-v1-banner2081-608.jpg

protrade2025-960x1200-v1-banner860x660.jpg

Proprietary Trader หรือ Prop Trader คือ “นักเทรด” ที่ซื้อขายในตลาดการเงินโดยใช้ “เงินทุนของบริษัท”  เมื่อคุณก้าวเข้าสู่การเป็น Prop Trader บริษัทจะจัดสรรทุนให้บริหารผ่านการเทรด พร้อมได้รับ เงินเดือนประจำ ควบคู่กับ “ส่วนแบ่งกำไร” จากการเทรดของ Prop Trader ซึ่ง ทำให้มี “รายได้สองทาง”  

สร้างคุณสู่ Prop Trader มืออาชีพ กับโครงการ  PHILLIP PROP TRADER ACADEMY 2025 ปีที่ 10 -  A Decade of Dedication เปิดรับสมัครแล้ววันนี้

Knowledge

Untitled design-2.png

Untitled design.png

ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนปรับปรุงและพัฒนาตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

DR ขยายเวลาซื้อ-ขาย เทรดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

ปกบทความ-Banner-Website-SingaporeZz.jpg

ปกบทความ-Banner-Website-Singapore-Z.jpg

เปิดโอกาสในตลาด Futures แห่งเอเชีย ต้องที่ SGX ศูนย์กลางเทรดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซื้อขายสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มโอกาสทำกำไรให้พอร์ตของคุณได้แล้วในวันนี้

ลงทุน Futures ในตลาดเอเชีย ต้อง SGX ลงทุนง่าย ซื้อขายสะดวกได้ทั่วโลก

LINE_ALBUM_web_241204_1.jpg

coverNEWS-PhillipxRHB-V3CFB.jpg

บล. ฟิลลิป ประเทศไทยฯ ปิดดีลใหญ่ เข้าซื้อกิจการ บล. อาร์เอชบี ประเทศไทย เสริมแกร่งธุรกิจโบรกเกอร์หุ้น คาด! ดันรายได้โตมากกว่า 50% พร้อมมุ่งขยายบริการ-ฐานลูกค้า ท่ามกลางภาวะอันท้าทายของตลาดทุนไทย

ดีลสะเทือนตลาด! บล. ฟิลลิป ซื้อ บล. อาร์เอชบี คาด ดันรายได้เกิน 50% พร้อมให้บริการซื้อขาย 20 ตลาดทั่วโลก

Banner_2.png

cover (1).png

วางแผนภาษีไม่ต้องรอสิ้นปี พร้อมรับ โปรโมชั่น Gift Card เฉพาะลูกค้าในกลุ่มฟิลลิป ผ่านช่องทาง ONLINE

ลดหย่อนภาษี...ไม่ต้องรอสิ้นปี!! พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษ จาก บล.ฟิลลิป!