ตลาดต่างประเทศ

หุ้นไทย

อนุพันธ์

หุ้นกู้

โครงการ EJIP

แพลตฟอร์มการเทรด

ลงทุนในหุ้น

กองทุนรวม

กองทุนส่วนบุคคล

กองทุนลดหย่อนภาษี

แบบประกันคุ้มครองความเสี่ยง

ลงทุนในกองทุน

บทความด้านการลงทุน

อัปเดตจากบริษัทฯ

ข่าวสารนักลงทุน

บทความและข่าวสาร

หุ้น

หุ้นต่างประเทศ

กองทุน

บทวิเคราะห์

ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ

คอร์สเรียนน่าสนใจ

วางแผนลดหย่อนภาษีสำหรับคนรักสัตว์

วางแผนการลงทุน

Footer Menu

องค์กร

บริการวาณิชธนกิจ

Fair Dealing Policy

คำถามที่พบบ่อย

รับสมัครตัวแทนอิสระ (IFA และ IAA)

เกี่ยวกับบริษัทฯ

Header Menu

Update Details

5 วิธี แนะมือใหม่ เลือกกองทุนรวมให้เหมาะกับตัวคุณ

Home

Update

{type}

{title}

5 Banner.png

<p>หากคุณกำลังจะเริ่มลงทุนผ่านกองทุนรวม แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกกองทุนรวมยังไง บทความนี้ช่วยคุณได้ ด้วยวิธีการต่างๆ ในการคัดเลือกกองทุน ที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนหน้าใหม่</p><p>&nbsp;</p><p>กองทุนรวมเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุน โดยนักลงทุนจะรวมเงินทุนเข้าไว้ด้วยกันในรูปแบบผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่ง โดยมีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่ดูแลบริหารจัดการทรัพย์สินของนักลงทุนโดยนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามเป้าหมาย สัดส่วน และแผนการที่ตั้งไว้ แต่ด้วยผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่มีจำนวนมาก นักลงทุนรายใหม่ก็อาจเจอปัญหาเวลาเลือกซื้อกองทุนรวมตัวใดตัวหนึ่ง</p><p>&nbsp;</p><p><img src="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/4_63023fd315.svg" alt="4.svg"></p><p>&nbsp;</p><h2><strong>1. ตั้งเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่รับได้</strong></h2><p>ก่อนจะเริ่มลงทุน การมองหาเป้าหมายในการลงทุนก่อนถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะต้องการผลตอบแทนระยะยาวเพื่อชีวิตหลังเกษียณ หรือระยะสั้น ออกไว้เพื่อใช้จ่ายในอนาคตอันใกล้ การเข้าใจเป้าหมายการลงทุนของตนเอง จะช่วยให้เลือกซื้อกองทุนที่ใช่ จากผลิตภัณฑ์ที่มีมากมายได้</p><p>&nbsp;</p><p>และเรื่องการรับความเสี่ยงก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ สามารถรับได้ไหมหากบางกองทุนมูลค่าในพอร์ตก็จะขึ้นลงไปมา หรือรู้สึกว่าลงทุนแบบเสี่ยงน้อยเหมาะกว่า? เพราะความเสี่ยงและผลตอบแทนมักจะไปคู่กัน (เสี่ยงมาก ตอบแทนสูง, เสียงน้อย ตอบแทนต่ำ) ผู้ลงทุนก็ควรให้น้ำหนักระหว่างผลตอบแทนกับความเสี่ยงที่จะได้รับ</p><p>&nbsp;</p><p>และสิ่งสุดท้ายคือ ระยะเวลาในการลงทุน ว่าเราสามารถถือเงินไว้ในรูปแบบกองทุนได้นานแค่ไหน? จะมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องเร็วๆ นี้หรือเปล่า? เพราะกองทุนรวมมักจะมีค่าธรรมเนียมการขาย และอาจส่งผลเสียใหญ่ต่อผลตอบแทนได้ วิธีการเลี่ยงค่าธรรมเนียมเหล่านี้คือตั้งระยะเวลาการลงทุนไว้อย่างน้อย 5 ปี</p><p>&nbsp;</p><p><img src="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/5_0e734a76ef.svg" alt="5.svg"></p><p>&nbsp;</p><h2><strong>2. รูปแบบและประเภทของกองทุนรวม</strong></h2><div>จุดประสงค์หลักของกองทุนที่เน้นการเติบโตคือ มูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นในระยะยาว หากคุณอยากลงทุนระยะยาวและพร้อมรับความเสี่ยง-ความผันผวน กองทุนระยะยาวจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะมาก กองทุนประเภทนี้จะลงทุนไปกับหุ้นเป็นส่วนใหญ่ จึงมีความเสี่ยงสูงเป็นธรรมดา แต่ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงมากเช่นกัน ช่วงเวลาที่กองทุนประเภทนี้กำหนดให้ถือจะอยู่ที่ 5 ปี หรือมากกว่า<br><br>กองทุนที่เน้นการเติบโตและเน้นมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นในระยะยาวมักจะไม่มีการจ่ายปันผล หากคุณอยากให้มีกระแสรายรับผ่านการลงทุน ควรเลือกลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้จะดีกว่า เพราะกองทุนเหล่านี้จะเน้นลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ที่มีการจ่ายดอกเบี้ยเป็นระยะ โดยกองทุนรวมประเภทนี้จะเน้นลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลและหุ้นกู้ภาคเอกชนเป็นหลัก กองทุนรวมตราสารหนี้มักจะจำกัดขอบเขตการลงทุนตามประเภทของพันธบัตรที่ถือ โดยความต่างหลักๆ จะอยู่ที่ช่วงเวลา อาจจะเป็นได้ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว<br><br>กองทุนรวมประเภทนี้มักมีความผันผวนต่ำ โดยขึ้นอยู่กับประเภทของพันธบัตรในพอร์ตการลงทุน แต่กองทุนตราสารหนี้แทบไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากตลาดหุ้น ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้เพิ่มกระจามความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น<br>แต่กองทุนรวมตราสารหนี้ก็มีความเสี่ยงอยู่ ได้แก่</div><div>&nbsp;</div><div><ul><li>อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะสัมพันธ์ต่อต่อราคาพันธบัตร ถ้าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาพันธบัตรจะตกลง</li><li>ผู้ออกพันธบัตรอาจผิดนำชำระหนี้ (แต่โอกาสเป็นไปได้ต่ำมาก)</li></ul><p>&nbsp;</p><p>แต่ถ้าคุณมีการลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว และต้องการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อการกระจายความเสี่ยง ความเสี่ยงเหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก</p><p><br>แต่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวและยังรับความเสี่ยงไม่ได้มาก กองทุนรวมที่เน้นลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีในกรณีนี้</p><p>&nbsp;</p><p><img src="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/6_eb349ebacb.svg" alt="6.svg"></p><p>&nbsp;</p><h2><strong>3.ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ</strong></h2><div>บริษัทที่ดูแลกองทุนจะทำเงินผ่านการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักลงทุน การทำความเข้าใจค่าธรรมเนียมต่างๆ ก่อนทำการซื้อขายถือเป็นเรื่องสำคัญ</div><div><br>กองทุนรวมบางตัวจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายอาจเก็บตอนซื้อหรือขายกองทุนก็ได้ อย่างค่าธรรมเนียมจากการขายหน่วยลงทุน (Front-End Fee) คือการเก็บค่าธรรมเนียมในครั้งแรกที่ซื้อกองทุน ส่วนค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (Back-End Fee) จะเรียกเก็บเวลาที่คุณขายกองทุนคืน แต่จะเรียกเก็บเฉพาะเวลาขายคืนกองทุนดังที่กำหนดระยะเวลาการถือครองชัดเจน เช่น 5 - 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ ค่าธรรมเนียมเหล่านี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายบ่อยเกินจำเป็น ค่าธรรมเนียมส่วนมากมักจะสูงในปีแรกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะค่อยลดลงตามระยะเวลา</div><div><br>โดยค่าธรรมเนียมการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะคิดที่ 1.5% - 2% ของมูลค่าซื้อขาย ค่าธรรมเนียมส่วนนี้้เป็นรายได้เดียวที่จะกระจายไปยังฝ่ายบริหารจัดการกองทุนต่างๆ<br><br>และยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมแบบที่สามเรียกว่า Level-Load เป็นค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บรายปีจากสินทรัพย์ที่ได้จากกองทุน</div><div><br>หรืออาจจะมีไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆ เลย แต่เรียกเก็บจากค่าบริหารจัดการกองทุนแทน</div><div><br>บางกองทุนรวมอาจเก็บค่าธรรมเนียม 12b-1 ซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายในการกระจายกองทุนรวมและค่าทำการตลาด ซึ่งจะจ่ายให้กับโบรกเกอร์เป็นค่าคอมมิชชั่นในการขายกองทุน</div><div>&nbsp;</div><div>&nbsp;</div><p><img src="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/7_e8cd351af5.svg" alt="7.svg"></p><p>&nbsp;</p><h2><strong>4.เป็นกองทุนที่บริหารเชิงรุก (Active) หรือเชิงรับ (Passive)</strong></h2><div>ก่อนซื้อกองทุนรวม คุณต้องตัดสินใจแต่เนิ่นๆ ว่าอยากได้วิธีการบริหารจัดการกองทุนเชิงรุกหรือเชิงรับ กองทุนรวมที่ผู้จัดการกองทุนทำงานเชิงรุกจะตัดสินใจว่าควรมีหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ตัวไหนบ้างในกองทุน ด้วยการค้นหาข้อมูลของแต่ละสินทรัพย์ พิจารณาประเภทและพื้นฐานธุรกิจ แนวโน้มเศรษฐกิจ ไปจนถึงปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์มหาภาคก่อนตัดสินใจลงทุน<br>&nbsp;</div><div>กองทุนที่เน้นบริหารเชิงรุก (Active) จะหาวิธีเอาชนะดัชนีตลาด ส่งให้มีค่าธรรมเนียมการบริการกองทุนที่ค่อนข้างสูง<br>&nbsp;</div><div>ส่วนกองทุนที่เน้นบริหารเชิงรับ (Passive) จะค่อนข้างอิงกับดัชนีตลาด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ในพอร์ตมากนัก ทำให้มีค่าธรรมเนียมการบริหารที่ค่อนข้างต่ำ</div><div>&nbsp;</div><div>&nbsp;</div><p><img src="https://poems-static-prod.azureedge.net/media/8_4d15365ce4.svg" alt="8.svg"></p><p>&nbsp;</p><h2><strong>5.การประเมินผลงานที่ผ่านมาของผู้จัดการกองทุน</strong></h2><div>การศึกษาข้อมูลเก่าๆ ก่อนการลงทุนทุกครั้งถือเป็นเรื่องสำคัญ มีคำถามมากมายที่นักลงทุนควรตั้งคำถามขณะที่กำลังดูข้อมูลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนนั้นๆ<br>&nbsp;</div><ul><li>ผู้จัดการกองทุนได้ผลลัพธ์การบริหารที่เทียบเท่ากับผลตอบแทนของตลาดหรือไม่?</li><li>กองทุนนั้นๆ มีความผันผวนสูงกว่าดัชนีของตลาดหลักหรือเปล่า</li><li>ผลตอบแทนที่สูงมากผิดปกติจะส่งผลเรื่องค่าดำเนินการและภาษีต่อนักลงทุนไหม?</li></ul><p>&nbsp;</p><p>คำตอบที่หาได้จะช่วยให้คุณมีข้อมูลเชิงลึกว่าผู้จัดการกองทุนบริหารจัดการได้ผลแบบไหน และเห็นคร่าวๆ ว่าแนวโน้มผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร</p><div>&nbsp;</div><div>ก่อนจะซื้อกองทุนการทนทวนพื้นฐานการลงทุนใหม่ก็พอให้แนวทางได้ว่าผลตอบแทน ภาคธุรกิจในกองทุนนั้นๆ และแนวโน้มการตลาดจะส่งผลอย่างไรต่อการดำเนิงานของกองทุน</div><div>&nbsp;</div><div>&nbsp;</div><p><strong>Reference:&nbsp;</strong></p><ol><li>GLENN CURTIS, Vice President of Market Intelligence <a href="https://www.investopedia.com/investing/how-pick-best-mutual-fund/" target="_blank">https://www.investopedia.com/investing/how-pick-best-mutual-fund/</a></li></ol></div>

5 Cover.png

หากคุณกำลังจะเริ่มลงทุนผ่านกองทุนรวม แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกกองทุนรวมยังไง บทความนี้ช่วยคุณได้ ด้วยวิธีการต่างๆ ในการคัดเลือกกองทุน ที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนหน้าใหม่

five-ways-to-help-beginner-choose-mutual-funds

Advice

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

42 Banner.png

42 Cover.png

มุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวัง ต่อตลาดหุ้นโลก และสหรัฐฯ มุมมองเป็นกลางกับตลาดหุ้นอื่นๆรวมถึงจีน

Market Playbook 2025 (มุมมองการลงทุน Q1/2025)

LINE_ALBUM_web_241204_1.jpg

coverNEWS-PhillipxRHB-V3CFB.jpg

บล. ฟิลลิป ประเทศไทยฯ ปิดดีลใหญ่ เข้าซื้อกิจการ บล. อาร์เอชบี ประเทศไทย เสริมแกร่งธุรกิจโบรกเกอร์หุ้น คาด! ดันรายได้โตมากกว่า 50% พร้อมมุ่งขยายบริการ-ฐานลูกค้า ท่ามกลางภาวะอันท้าทายของตลาดทุนไทย

ดีลสะเทือนตลาด! บล. ฟิลลิป ซื้อ บล. อาร์เอชบี คาด ดันรายได้เกิน 50%  พร้อมให้บริการซื้อขาย 20 ตลาดทั่วโลก

Knowledge

proptrade_02_1fc30f5799.png

proptrade_01_f9d433635a.png

บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ TFEX x Phillip Prop Trader Academy ปีที่ 9

รายชื่อผู้ที่ผ่านเข้าร่วมโครงการ TFEX x Phillip Prop Trader Academy 2024 ปีที่ 9

app2024_2081x608_92bab2d369.png

app2024_860x660_6b412279d2.png

เปรียบเทียบจุดเด่นที่น่าสนใจของแพลตฟอร์มเทรดหุ้น อนุพันธ์ และกองทุนรวมตลาดทุนไทย เพื่อให้คุณค้นพบแพลตฟอร์มที่ใช่ พร้อมเทรดในสไตล์ของตัวเอง

เช็คพอยท์จุดเด่นแพลตฟอร์มเทรดหุ้น อนุพันธ์ และกองทุนรวมตลาดทุนไทยของทางฟิลลิปแคปปิตอล

LINE_ALBUM_2024.4.19_240419_1.jpg

LINE_ALBUM_2024.4.19_240419_2.jpg

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์โครงการ TFEX x Phillip Prop Trader Academy 2024 จำนวน 50 ท่าน พร้อมรายละเอียดที่ควรทราบ

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ TFEX x Phillip Prop Trader Academy 2024

Easy E-Receipt 2568 WebB-02.jpg

Easy E-Receipt 2568 WebA-01.jpg

ชวนคุณช้อปปิ้งลดหย่อนภาษี โดยการลงทุนเพื่อเปิดโอกาสรับกำไรกับฟิลลิปแคปปิตอล 
ที่ให้คุณลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 30,000 บาท พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน

ลงทุนเพื่อใช้สิทธิ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท กับฟิลลิปแคปปิตอล