ตลาดต่างประเทศ

หุ้นไทย

อนุพันธ์

หุ้นกู้

โครงการ EJIP

แพลตฟอร์มการเทรด

ลงทุนในหุ้น

กองทุนรวม

กองทุนส่วนบุคคล

กองทุนลดหย่อนภาษี

แบบประกันคุ้มครองความเสี่ยง

ลงทุนในกองทุน

บทความด้านการลงทุน

อัปเดตจากบริษัทฯ

ข่าวสารนักลงทุน

บทความและข่าวสาร

หุ้น

หุ้นต่างประเทศ

กองทุน

บทวิเคราะห์

ผลิตภัณฑ์น่าสนใจ

คอร์สเรียนน่าสนใจ

วางแผนลดหย่อนภาษีสำหรับคนรักสัตว์

วางแผนการลงทุน

Footer Menu

องค์กร

บริการวาณิชธนกิจ

Fair Dealing Policy

คำถามที่พบบ่อย

รับสมัครตัวแทนอิสระ (IFA และ IAA)

เกี่ยวกับบริษัทฯ

Header Menu

Update Details

วางเงินไว้ที่ไหน ให้เหมาะกับความเสี่ยง และผลตอบแทนที่เราอยากได้?

Home

Update

{type}

{title}

36 Banner.png

<div>สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกับ Mr. Phillip อีกครั้งนะ สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นมือใหม่ ที่คิดว่าตัวเองกำลังจะเริ่มลงทุน ผมขอแนะนำว่าก่อนที่เราจะเริ่มลงทุนนั้นเราต้องรู้ก่อนว่า จะลงทุนในอะไรและความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์อยู่ที่ระดับใด และตัวเรารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหนครับ ก่อนอื่น เรามาดูกันว่าแต่ละคนรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ตามลิงค์นี้เลยครับ <a href="http://bit.ly/3dPtsGy" target="_blank">http://bit.ly/3dPtsGy</a></div><div><br><br>หลังจากที่แต่ละคนทราบความเสี่ยงตัวเองแล้ว เราจะเห็นว่าในแบบประเมินความเสี่ยงบอกว่า เรารับความเสี่ยงได้ระดับใด และสินทรัพย์รูปแบบใดที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เรารับได้บ้าง ทีนี้เรามาทำความรู้จักการลงทุนแต่ละสินทรัพย์ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรและผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง</div><div><br><br>ผมขอแบ่งสินทรัพย์การลงทุน แต่ละแบบตามความเสี่ยงดังนี้</div><div><br>&nbsp;</div><h2><strong>1. ระดับความเสี่ยงต่ำ&nbsp;</strong></h2><ul><li><strong>กองทุนรวมตลาดเงิน (Money market)</strong>&nbsp;เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี ซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี ของกองทุนรวมตลาดเงินประเภทนี้นั้นอยู่ที่ 1.1 % ต่อปี (อ้างอิงจากผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลังของ K-CASH)<br>&nbsp;</li><li><strong>พันธบัตรรัฐบาล (Government bond)</strong>&nbsp;เป็นตราสารหนี้รัฐบาล ออกโดยหน่วยงานของรัฐโดยผู้ซื้อมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของหน่วยงานของรัฐ จึงทำให้เราสามารถพูดได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปีอยู่ที่ เฉลี่ย 0.46% ต่อปี เมื่อเราถือจนครบอายุการถือครองของพันธบัตร&nbsp;<br>&nbsp;</li></ul><h2><strong>2. ระดับความเสี่ยงปานกลาง&nbsp;&nbsp;</strong></h2><ul><li><strong>กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาว</strong> เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้น (น้อยกว่า 1 ปี) และอายุยาว (มากกว่า 1 ปี) โดยผู้ออกตราสารหนี้นั้นเป็นบริษัทเอกชน ความแตกต่างของตราสารหนี้เอกชนแต่ละตัวนอกจากอายุก็คือ ความน่าเชื่อถือของบริษัท ซึ่งเรื่องนี้ ถ้าหากเราลงทุนผ่านกองทุนรวมผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการให้เราเอง โดยผลตอบแทนของกองทุนรวมตราสารหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 - 1.8% ต่อปี (อ้างอิงผลตอบแทนจากกองทุน K-CBOND)<br>&nbsp;</li><li><strong>หุ้นกู้</strong> คือ ตราสารหนี้ที่บริษัทเอกชนออกมาเพื่อที่จะกู้ยืมเงินจากประชาชนโดยตรง ซึ่งผลตอบแทนของหุ้นกู้จะอยู่ในรูปของดอกเบี้ย โดยหุ้นกู้แต่ละตัวนั้นผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับอันดับความน่าเชื่อถือและอายุของหุ้นกู้ โดยเฉลี่ยแล้วหุ้นกู้ที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับหุ้นกู้เพื่อการลงทุน ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 1.2 - 1.4% ต่อปี (อ้างอิง http://www.thaibma.or.th/EN/Market/YieldCurve/Corporate.aspx)</li></ul><div><p>&nbsp;</p><p>สิ่งที่เราต้องสนใจเพิ่มเติมในการลงทุนตราสารหนี้ คือ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนจะเสียภาษี 15% เช่นลงทุนผ่านตราสารหนี้ ได้ดอกเบี้ย 2% ต่อปี จากเงินลงทุน 100,000 บาท จะได้ผลตอบแทน 2,000 บาท และจะโดนหักภาษีไป 15% ทำให้เหลือผลตอบแทน 1,700 บาทนั่นเอง<br>&nbsp;</p><h2><strong>3. ระดับความเสี่ยงสูง&nbsp;</strong></h2><div>&nbsp;</div><ul><li><strong>ตราสารทุนหรือหุ้น</strong> เป็นตราสารที่ผู้ซื้อมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการแต่เป็นเจ้าของกิจการเพียงแค่บางส่วนตามจำนวนหุ้นที่เราถือ การลงทุนในหุ้นเราจะต้องพบความเสี่ยงได้แก่ ความเสี่ยงของธุรกิจ ความเสี่ยงทางตลาดความเสี่ยงในอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงในอำนาจซื้อ<br><br>ซึ่งผลตอบแทนจากตราสารทุนถ้าหากเราอ้างอิงจากดัชนี SET index นั้น หากย้อนหลังกลับไป 5 ปีที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมาราวๆ 16 % เฉลี่ยแล้วโตต่อปีประมาณ 3.3% ต่อปี หรือ ถ้าเรามองเพียงเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้ SET index มีความผันผวนสูง แต่ถ้าหากเรามองเพียงปี 2017 SET index นั้นปรับตัวขึ้นถึง 13% หรือถ้าเรามองที่การลงทุนต่างประเทคในหถ้นกลุ่ทเทคโนโลยีปี 2020 ดัชนี Nasdaq นั้นปรับตัวขึ้นถึง 42 % <strong>ซึ่งถ้าหากเป็นนักลงทุนมือใหม่ ไม่ถนัดในการเลือกหุ้นเองสามารถลงทุนผ่านทางกองทุนรวมได้ครับ</strong><br>&nbsp;</li><li><strong>ตราสารอนุพันธ์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า</strong> หน้าที่หลักของตราสารชนิดนี้จริงๆ แล้ว ถูกสร้างมาเพื่อบริหารความเสี่ยงหรือเก็งกำไร ดังนั้นการประมาณการผลตอบแทนจะไม่มีตัวเลขที่บอกได้ อีกทั้งความซับซ้อนของตราสารชนิดนี้ ทำให้ตราสารชนิดนี้ถูกจัดเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงสูงสุดครับ<br><br>เมื่อเราทำความรู้จักกับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ และความเสี่ยงระดับต่างๆ กันไปแล้วนะครับ ต่อไปเราจะต้องเริ่มจัดการลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ครั้งหน้า ผม จะมาเล่าเรื่อง <strong>Asset Allocation (การกระจายการลงทุน) ว่าทำไมถึงสำคัญและมีวิธีการอย่างไร</strong> แล้วมาติดตามกันต่อนะครับ</li></ul><div>&nbsp;</div><div>&nbsp;</div><div>Mr. Phillip ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ</div></div>

36 Cover.png

ก่อนที่เราจะเริ่มลงทุนนั้นเราต้องรู้ก่อนว่า จะลงทุนในอะไรและความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์อยู่ที่ระดับใด และตัวเรารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน

money-with-risks

Advice

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

42 Banner.png

42 Cover.png

มุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวัง ต่อตลาดหุ้นโลก และสหรัฐฯ มุมมองเป็นกลางกับตลาดหุ้นอื่นๆรวมถึงจีน

Market Playbook 2025 (มุมมองการลงทุน Q1/2025)

LINE_ALBUM_web_241204_1.jpg

coverNEWS-PhillipxRHB-V3CFB.jpg

บล. ฟิลลิป ประเทศไทยฯ ปิดดีลใหญ่ เข้าซื้อกิจการ บล. อาร์เอชบี ประเทศไทย เสริมแกร่งธุรกิจโบรกเกอร์หุ้น คาด! ดันรายได้โตมากกว่า 50% พร้อมมุ่งขยายบริการ-ฐานลูกค้า ท่ามกลางภาวะอันท้าทายของตลาดทุนไทย

ดีลสะเทือนตลาด! บล. ฟิลลิป ซื้อ บล. อาร์เอชบี คาด ดันรายได้เกิน 50%  พร้อมให้บริการซื้อขาย 20 ตลาดทั่วโลก

Knowledge

proptrade_02_1fc30f5799.png

proptrade_01_f9d433635a.png

บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ TFEX x Phillip Prop Trader Academy ปีที่ 9

รายชื่อผู้ที่ผ่านเข้าร่วมโครงการ TFEX x Phillip Prop Trader Academy 2024 ปีที่ 9

app2024_2081x608_92bab2d369.png

app2024_860x660_6b412279d2.png

เปรียบเทียบจุดเด่นที่น่าสนใจของแพลตฟอร์มเทรดหุ้น อนุพันธ์ และกองทุนรวมตลาดทุนไทย เพื่อให้คุณค้นพบแพลตฟอร์มที่ใช่ พร้อมเทรดในสไตล์ของตัวเอง

เช็คพอยท์จุดเด่นแพลตฟอร์มเทรดหุ้น อนุพันธ์ และกองทุนรวมตลาดทุนไทยของทางฟิลลิปแคปปิตอล

LINE_ALBUM_2024.4.19_240419_1.jpg

LINE_ALBUM_2024.4.19_240419_2.jpg

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์โครงการ TFEX x Phillip Prop Trader Academy 2024 จำนวน 50 ท่าน พร้อมรายละเอียดที่ควรทราบ

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์ TFEX x Phillip Prop Trader Academy 2024

Easy E-Receipt 2568 WebB-02.jpg

Easy E-Receipt 2568 WebA-01.jpg

ชวนคุณช้อปปิ้งลดหย่อนภาษี โดยการลงทุนเพื่อเปิดโอกาสรับกำไรกับฟิลลิปแคปปิตอล 
ที่ให้คุณลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 30,000 บาท พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน

ลงทุนเพื่อใช้สิทธิ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท กับฟิลลิปแคปปิตอล